การเมือง

กลับบ้านไปเลือกตั้ง

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ได้ไปเลือกตั้ง สส. กับเขาทำตนให้สมกับพลเมืองในระบอปประชาธิปไตยกับเขาหน่อย บ้านเมืองเราเขาว่าเลือกตั้งแล้วจะดีขึ้น จริง ๆ นะเขาว่างั้น ผมว่าจริงมั้ง มีความสุขเข้าไว้คนไทยเอ๋ย… กลับบ้านคราวนี้ก็คว้ากล้องไปด้วยกะถ่ายบรรยากาศแถว ๆ บ้านมา ก็ผิดหวังเล็กน้อยเพราะไม่เหมือนกับสมัยก่อนเสียแล้ว มันไม่ชุ่มชื่นสดใสเหมือนเดิม อะไรหลาย ๆ อย่างหายไปหาไม่เจอ เจอก็มีน้อยน่าเสียดาย ร้อนจริง ๆ เดินถ่ายรูปตัวดำเลยเรา ฮ่า ๆ เป็นครั้งแรกที่ตื่นแต่เช้า เดินถ่ายรูปแบบไม่หิวไม่เหนื่อย รู้ตัวอีกทีก็เกือบเที่ยงแล้ว แม่บ่นใหญ่ว่าหายไปไหน ปกติกลับบ้านจะนอนทั้งวันวันนั้นหายไปแต่เช้ามืด แม่หุงข้าวรอ (แอบได้ยินเสียงแม่บ่นลอยลมมา)
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

การแสดงออกทางการเมือง #fb

ไม่ได้ blog เกี่ยวกับการเมืองซะนานเลยช่วงนี้มันอดไม่ได้จริง ๆ ก็บันทึกไว้สักหน่อย blog แรกคงเขียนถึงเรื่องใกล้ตัวก่อนเนื่องจากผมเล่น facebook อยู่เป็นประจำอยู่แล้วก็เลยขอกล่าวถึงการแสดงออกทางการเมืองผ่าน facebook สักหน่อย ตอนนี้ก็มีการรวมกลุ่มกันเพื่อแสดงท่าทีต่อเรื่องการยุบสภาหรือไม่ ซึ่งทั้งสองฝั่งความคิดก็ได้มีการสร้างหน้า สร้างกลุ่ม กันเยอะพอสมควร ผมขอเอาทั้งสองฝ่าย คือเลือกเอามาเฉพาะหน้า หรือ กลุ่มที่มีจำนวนคนเยอะที่สุดของทั้งสองฝั่งมาให้เลือกเข้าไปแสดงความเห็นกันได้ทั้งสองฝ่ายนะครับ ยุบสภา ไม่ยุบสภา ถ้ามีกลุ่มอื่นที่มากกว่านี้ก็ต้องขออภัยนะครับผมหาเจอเท่านี้ ปล. การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และ ความเชื่อทางการเมืองเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไม่ควรก่อให้เกิดความบาดหมางใจกันในกลุ่มเพื่อน กลุ่มญาติ เลยนะครับมันน่าหดหู่เกินไป ใครเชื่อยังไงก็ให้ดำเนินการไปตามความเชื่อของตนเองพิสูจน์ให้สังคมเห็นให้สังคมยอมรับและที่สำคัญไม่ล่วงละเมิดสิทธิของคนอื่นด้วย เห็นแตกต่างกันแต่เรายังเป็นเพื่อน เรายังเป็นคนไทยเหมือนกัน
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

จะต่อสู้กับอำนาจเงินตรา….

เพื่อนพ้องทุกท่านบ้านเมืองเราตอนนี้น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งหากเรามัวห่วงแต่ตัวเองแล้วชาติจะอยู่อย่างไร ? การต้องสู้ด้วยสันติ แสดงออกด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อแสดงให้กลุ่มคนที่กำลังคิดรวบอำนาจ เผด็จการในคราบประชาธิปไตย เหยียย่ำคนจนด้วยเงินตรา ปิดหูปิดตาชาวรากหญ้าด้วยถ้อยคำมุสา หลอกล่อด้วยอามิสสินจ้าง ซ้ำเติมความยากจนให้กับฐานเสียงที่มันเหยียบหัวขึ้นเถลิงเสวยอำนาจได้เห็นพลังมวลชนที่ต่อสู้เพื่อบ้านเพื่อเมืองเพื่อเผ่าพันธุ์ชาติไทยของเรา เรารอแต่ดูไม่ได้อีกต่อไปแล้วมันไม่ได้สำนึกถึงการกระทำ ความขัดแย้งแผ่ขยายออกไปทั่วประเทศ เราคนไทยอย่าหลงเชื่อคำลงของมัน จงร่วมใจกันทำเพื่อส่วนรวมเถิด อย่าให้คนคนเดียวต้องทำให้ประเทศชาติต้องแตกแยกไปมากกว่านี้ ถึงท่านจะรักยกย่องมันก็จงตัดใจคิดซะว่าลูกหลานเกเร ท่านรักลูกต้องสั่งสอนในทางที่ถูกต้อง
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

ไทยต้องช่วยไทย

"อะไรหรือคือ….ประชาธิปไตย?" ช่วงนี้บ้านเมืองอ่อนแอถึงแม้ทหารที่ดูเข้มแข็งยึดครองอยู่ กระแสข่าวลือต่าง ๆ นานาสร้างความสับสนให้กับประชาชนอย่างเรา ๆ ในฐานะคนไทยคนหนึ่งก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ถ้าเกิดเหตุการที่ไม่คาดคิดที่ทำให้เราต้องรบราฆ่าฟันกันเองหลังจากนี้มันจะแย่สักแค่ไหน ปัญหาต่าง ๆ มันเกิดจากไทยไม่รักไทยทำร้ายกันเอง ผมจริตคิดไปเองถึงขั้นว่าถ้าเรายังไม่ปรองดองกันหลังจากนี้นานาประเทศที่รอดูความล่มสลายของบ้านเมืองเรามันมีอยู่เยอะ หาทางแซกแทรงทุกรูปแบบยิ่งมีข้ออ้างอันสวยหรูแบบนี้น้ำลายไหลกันเป็นทิวแถว… หยุดคิดสักนิดพี่น้องแผ่นดินนี้แผ่นดินไทยอย่าให้ใครเข้ามาตัดสิน เราคนไทยพูดภาษาเดียวกันเข้าใจลึกซึ้งไม่ต้องผ่านล่ามให้ความสวยงามของภาษาลดหายไป แล้วไฉนถึงแบ่งแยกแบ่งพวกในเมื่อเป้าหมายที่เราเรียกร้องคือเสรีภาพเสมอเหมือนเดียวกัน… บ้านเมืองยามนี้ต้องการกำลังใจจากคนไทยด้วยกัน อย่าให้ต่างชาติขบขันว่าคนไทยตบตีกันเพื่ออะไร? ผมก็คนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับอำนาจอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เราต้องรักสามัคคีกัน เพราะผลของวันนี้มันมาจากความแตกแยกของคนไทยด้วยกันเราอย่าทำให้เลวร้ายไปกว่านี้หลังพายุฝนย่อมมีฟ้าที่สวยงามเสมอ… "ฉันโบยบินหาเสรี….ในโลกสี….น้ำเงิน ฉันค้นหาจิตใจคน….ในโลกยุค….น้ำเงิน ฉันอ่อนแอพ่ายแพ้….แพ้…น้ำเงิน" ศุภโชค 22/09/49
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

ธรรมะกับการเมือง: ความเป็นทาสทางสติปัญญา

ถ้ามีเวลาก็คงนั่งคิดลอกบางส่วนของหนังสือเรื่อง “ธรรมะกับการเมือง” ของท่านพุทธทาส มาลงเรื่อย ๆ สำหรับ blog นี้ผมขอคัดในหัวข้อ “ความเป็นทาสทางสติปัญญา” ซึ่งท่านได้แยกเป็นสองส่วนคือ ความเป็นทาสทางสติปัญญาฝ่ายศาสนา และ ความเป็นทาสทางสติปัญญาฝ่ายโลก ลองอ่านและทำความเข้าใจกันดูนะครับเผื่อจะได้นำมาสร้างสรรค์บ้านเมืองเราให้ดีขึ้นมาบ้าง ความเป็นทาสทางสติปัญญา ความเป็นทาสทางสติปัญญาฝ่ายศาสนา เพราะเราไปเห็นเรื่องชาวบ้าน เรื่องเมือง เรื่องปาก เรื่องท้อง เราก็ไม่ได้สนใจกับเรื่องศาสนา มันก็ยิ่งกว่าสูญเสียอิสรภาพ คือไม่ได้คิดนึกหรือต้องการที่จะมีอิสรภาพ เรากำลังไม่มีอิสรภาพ ไม่มีเสรีภาพหรือไม่มีสมรรถภาพอะไรก็แล้วแต่จะเรียกในด้านความคิดนึก ที่เกี่ยวกับความคิดนึก; เพราะเรามันถูกทำให้เป็นทาสทางสติปัญญา เรื่องนี้ผูดไปก็อันตรายเหมือนกัน แต่ก็ต้องพูดบ้าง คือว่าความงมงายทั้งหลายที่รับถ่ายทอดกันมา อย่างที่เรียกว่าประเพณีนิยม; นี้ก็มีอยู่บางอย่าง หรือบางส่วน ที่ทำให้หมดอิสรภาพในเรื่องใช้สติปัญญา แม้ในทางศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งกว่าเรื่องการเมือง พุทธบริษัทเรา ถ้าตกไปในความงมงานเท่าไรก็สูญเสียอิสรภาพทางสติปัญญาเท่านั้น ความงมงายนี้มีหลายสิบ หลายร้อย รูปแบบ หรือชนิด ไปดูเอาเอง อย่าต้องออกชื่อ มันกระทบกระเทือน; ใครรู้ของใครมองเห็นของตัวเองแล้ว ก็ พยายามทำลายสิ่งที่กีดกันอิสรภาพเสรีภาพของความคิดนึกให้เราได้มีความคิดนึกที่เป็นอิสระ แม้แต่ การศึกษาธรรมะ หรือ การปฏิบัติธรรมะ ก็ควรจะเป็นอิสระ เราจึงก้าวหน้าทางการศึกษา และ ทางการปฏิบัติธรรมะ และมีหวังที่จะบรรลุมรรค ผล นิพพาน ถ้าเราติดตังอยู่ที่ความงมงายนี้แล้ว มันก็ไม่มีหวังที่จะก้าวหน้าไปตามทางของมรรค ผล นิพพาน นี่ เรื่องใหญ่หลวงของพุทธบริษัท คือความไม่มีอิสระภาพในการใช้ความคิดนึก เลือกเฟ้น; อย่างที่เรียกโดยชื่อว่า ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์, ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์-การเลือกเฟ้นธรรมซึ่งเป็นองค์แห่งการตรัสรู้ วันนี้ไม่ได้ต้องการจะพูดเรื่องศาสนา แต่โดยเหตุที่มันเกี่ยวข้องกันอยู่กับการเมือง คือ พุทธบริษัทเรา ไม่เป็นอิสระ แม้แต่ในวงการของเรา การศึกษา หรือ การปฏิบัติที่เกี่ยวกับธรรมะแล้วตจะเอาปัญญาไหนไปอิสระ ในการที่จะวินิจฉัยเกี่ยวกับการเมือง จึงได้ดึงสิ่งที่เรียกว่าการเมืองเข้ามา, ชี้ให้เห็นว่า เป็นอันเดียวกันกับสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ เพื่อว่าจะได้แสวงหาอิสระตามธรรมชาติ มันเป็นอิสระที่แท้จริง มันจะมีอิสระทั้งทางศาสนา และ ทางอื่น ๆ รวมทั้งทางการเมืองด้วย ที่ยกมาเปรียบเทียบนี้ มันเหมือนกับด่า; ขออภัย คือว่าแม้แต่ในวงการของตัว คือทางศาสนา ก็หาอิสรภาพ เสรีภาพ ในการใช้สติปัญญานี้ไม่ได้เสียแล้ว; แล้วทำไมจะไปมีอิสระภาพในการใช้สติปัญญา ในทางการเมือง ดังนั้น ต้องทำตนให้เป็นคนกล้า กล้าหาญ แล้วก็มี อิสรภาพในการพินิจพิจารณา โดยไม่ต้องกลัวขนบธรรมเนียมประเพณี ที่จะมามองดูกันเดี๋ยวนี้ว่าการเมืองนั้นมันคือธรรมะ ก็ได้บอกมาแล้วว่า คำพูดที่พูดออกไปว่า การเมืองคือธรรมะ นี่พวกนักการเมืองสมัยใหม่เจี๊ยบเลย เขาก็จะหาว่าบ้า, หาว่าคนพูดมันบ้า ที่พูดว่า การเมืองคือธรรมะ; เพราะเขาไม่รู้จักคำว่า ธรรมะ ทีนี้อุปัชฌาย์อาจารย์ของเราก็จะหาว่าบ้า; ถ้าผู้พูดเป็นเด็ก บางที่ก็จะถูกเขกกระบาลด้วย ที่ไปพูดว่าการเมืองมันคือธรรมะ นี่เพราะว่า เขาไม่มีอิสรภาพ เสรีภาพที่จะมอง นี้ก็จะต้องดูกันเสียใหม่ ให้มันถึงความจริง หรือถึงข้อเท็จจริงเสียก่อน ว่าธรรมะมันคืออะไร ว่าการเมืองคืออะไร โดยที่มีอิสระเสรีในการที่จะดู หรือจะใช้สติปัญญานั้นแหละ ความเป็นทาสทางสติปัญญาฝ่ายโลก ทีนี้จะมาดูอีกทางหนึ่ง ความเป็นทาสสติปัญญาในทางโลก อย่าลืมว่าเมื่อตะกี้เราพูดแต่ความเป็นทาสทางสติปัญญาในฝ่ายศาสนา ทีนี้มาดูในทางฝ่ายโลกกันบ้าง ว่านักการเมืองในประเทศไทย มันเป็นทาสทางสติปัญญาของพวกนักการเมืองต่างประเทศ หรือพวกฝรั่งกี่มากน้อย; เพราะว่ามันไปเรียนการเมือง เรียนอะไรที่เกี่ยวกับการเมืองมาจากเมืองนอก ปริญญายาวเป็นหาง หางยาวเท่าไร คิดว่ามันจะเป็นทาสทางสติปัญญามากเท่านั้น ระวังให้ดี ยิ่งเรียนเข้าไปมาก ยิ่งหลวมตัวเข้าไปมาก ยิ่งหลับหูหลับตา เชื่อเข้าไปมาก มันก็เป็นทาสทางสติปัญญามาก; ฉะนั้นนักการเมืองหรือนักศึกษาการเมืองพวกนี้แหละ ที่จะโห่เราว่าบ้าในเมื่อพูดว่า การเมืองคือธรรมะ, ถ้าเราตัดหางทิ้งเสียบ้าง เขาคงจะโห่น้อยลง, คือมามองดู เรื่องของพุทธบริษัทเสียบ้าง มองดูธรรมชาติอันลึกซึ้งบ้าง; แล้วก็มองเห็นข้อเท็จจริง อันนี้ ว่า การเมืองนั้นคือธรรมะ จะให้พูดอีกสักกี่สิบครั้ง หรือกี่ร้อยครั้งก็ยังพูดได้ ยังมีเหตุผลอีกมากมายเยอะแยะ พูดกันอีกสัก 100 ครั้ง ก็ได้ ซึ่งล้วนแต่พิสูนจ์ให้เห็นว่า การเมืองน่ะมันคือธรรมะ ในความหมายที่ถูกต้อง ไม่ใช่ความหมายแคบ ๆ ตื้น ๆ ของคนที่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าธรรมะ เต็มตามความหมายของคำนี้ ถ้าจะอิสรภาพทางสติปัญญา ในเรื่องทางการเมืองก็ต้องคิดกันเสียใหม่ ไปปรับปรุงกันเสียใหม่, แล้วการเมืองก็จะหมุนมาในทางชื่อตรง และ สุจริต โลกนี้ก็จะมีสันติภาพได้ เดี๋ยวนี้ในประเทศเรา ก็หาผลอันเป็นสันติภาพจากทางการเมืองไม่ได้ มีแต่ความขัดแย้ง ซึ่งเป็นสิ่งเสนียดจัญไรที่สุด; โดยเฉพาะความขัดแข้งทางการเมือง มีแต่จะทำลายประเทศชาติ ถ้ารู้จริงถึงความจริงข้อนี้ จะไม่เกิดความขัดแย้ง, เพราะมันมีจริงเพียงสิ่งเดียว จึงอยากจะให้มีเสรีภาพ หรืออิสรภาพ รวมทั้งสมรรถภาพในการวินิจฉัย, หรือว่าในการที่จะรวบรวมมาวินิจฉัยว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าเรา ไปติด ไปยึดในตำราในทฤษฎี ในอดุมคติ แนวไหน สายไหนเสียแล้ว เราไม่มีทางที่จะไปรวบรวมอันอื่นมาวินิจฉัย เพราะเราเป็นทาสทางสติปัญญาของทฤษฎีสายนั้นเสียแล้ว; แล้วก็ชอบยึดมั่นในสิ่งที่เรียกว่าปรัชญา คือปรัชญาทางการเมือง สายนั้น สายนี้ แขนงนั้น แขนงนี้ ของคนนั้น คนนี้; และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีทางที่จะรวบรวมเอาความจริงของธรรมชาติ คือความหมายของคำว่า “ธรรม” ทั้ง 4 ความหมายนั้นมาพิจารณาดู
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 2 นาที

ร่วมแรง…สร้างความเข้าใจ…

อ่านแล้วช่วยกันลงชื่อ (ด้วยความเข้าใจและสมัครใจ) Click เพื่ออ่าน รู้เท่าทันเทคโนโลยี แบบ พอเพียง อย่าให้เป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยี!!
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

รัฐประหาร

ไม่อยู่ในเขตปริมณฑลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ที่ผ่านมาเพราะต้องเดินทางไปอบรม LinuxSIS ที่นครศรีฯ คืนวันที่ 19 เลยรู้เรื่องเอาตอนที่เขาทำการกันเรียบร้อยแล้วลุ้นระทึกตามดูประกาศกันทั้งคืนโดยส่วนตัวนั้นไม่อยากให้เกิดเหตุการเช่นนี้เกิดขึ้นเลยเพราะเราก็เดินมาไกลพอสมควร แต่เมื่อมองในความเป็นจริงแล้วมันก็จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด (หรือเปล่า) ผมคิดว่ามันก็ยังดีกว่าเผด็จการในคราบประชาธิปไตยมากมายนัก ก็ขอให้อำนาจกลับมาเป็นของเราโดยเร็ว และอยากเห็นประชาธิปไตยโดยแท้จริง ไม่ใช่เครื่องมือของกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่ง เพราะมันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีวันเจริญงอกงาม…..
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

วาทะ

"Ask not what your country can do for you, ask what you can do for your country." "จงอย่าถามว่าประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามตัวท่านเองว่าท่านจะทำอะไรให้ประเทศชาติ" จอห์น เอฟ. แคนเนดี วาทะข้างบนเป็นวาทะที่ผมได้ฟัง หรือ ได้อ่านแล้วรู้สึกดีทุกครั้ง และผมคิดว่าใช้ได้ดีกับสังคมทุก ๆ สังคม การที่เราเฝ้ารอรับการช่วยเหลือจากสังคม ไม่ว่าจะระดับไหนเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อเรายังสามารถมีเรี่ยวแรงความสามารถที่จะทำงานเพื่อตัวเองได้ก็คงไม่เป็นเรื่องที่ลำบากมากนักที่จะเสียสละเวลา ให้กับสังคมบ้าง หลายคนอาจมองว่าสังคมไม่ดีแล้วเราจะทำไปทำไม อันนี้ก็ไม่รู้นะ หรือเพราะทุกคนรอรับกระมัง สังคมไม่ได้ไม่ดีเพราะตัวมันเองหรอก เพราะเรานี่แหละ….
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

อะไรหรือคือความจริง?

ตั้งแต่ไหนแต่ไรคำถามที่ไม่มีคำตอบ หรือ ความหวังที่ไร้หวัง รัฐรณรงค์งดสูบบุรี่ แต่รัฐมีโรงงานยาสูบ รัฐบอกว่างดเหล้าเข้าพรรษา แต่รัฐมีโรงงานต้มเหล้า รัฐบอกว่าเล่นหวยเป็นการพนัน แต่รัฐเป็นเจ้ามือหวยรายใหญ่ ตำรวจจับยาบ้า ยาเสพติด แต่ตำรวจเป็นพ่อค้ารายใหญ่ ตั้งแต่ผมจำความได้สิ่งเหล่านี้ก็มีให้เห็นแล้วโดยปกติ มาวันนี้มีข่าวการพยายามควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกฮอล์ แต่ดูแล้วเหมือนไฟไหม้ฟางวูบเดียวเดี๋ยวก็ดับ อีกด้านก็พยายามยกเลิกหวยบนดินที่เป็นแหล่งเงินของรัฐบาลชุดที่แล้วแต่เจอประชาชนต่อต้าน นี่บ้านเมืองเราเป็นอะไรไปแล้วหรือ? ชีวิตหมกหมุ่นอยู่กับอะบายจนแยกไม่ออกว่าอะไรคือถูกอะไรคือผิด หรือว่ารู้แต่มันชินเป็นธรรมดา ผมรู้สึกแย่มาก ๆ เมื่อเห็นข่าวคนออกมาชมนมเพราะจะยกเลิกหวย คนขายเหล้าออกมาแสดงความคิดเห็นเมื่อพยายามลดสื่อชักจูง เงินทำให้คนลืมทุกสิ่งได้จริง ๆ ผมเองก็เป็นในบางครั้ง ความวุ่นวายต่าง ๆ ในบ้านเมืองผมลองถามตัวเองดูว่าสาเหตุมันมาจากอะไร ก็ตอบตัวเองได้ไม่ชัดสักเท่าไรนัก แต่ ณ ตอนนี้ผมเชื่อว่าความวุ่นวายมาจากเรา ๆ ท่าน ๆ และตัวผมเองนี่แหละ ที่ไม่สามารถยึดเกมการเมืองไว้ได้ปล่อยให้อำนาจเงิน และ สิ่งที่มองไม่เห็นชักจูงไป บางครั้งผมไม่ชอบการปฏิวัติครั้ง พ.ศ. 2475 เอาเสียเลยมันเห็นแก่ตัวไม่ได้คิดถึงประชาชนจริง ๆ แต่อ้างประชาชน เพราะอะไรนะหรือ ? ครั้งนั้นผมกล้าพูดได้ว่าคำว่าประชาธิปไดยรู้จักแค่คนบางกลุ่มบางพวกเท่านั้น ตามี ตามาไม่ได้รู้อะไรกับเขาเลย เสาเข็มของประเทศคือคนยากจนเข้าไม่ถึงประขาธิปไดย มีแค่กลุ่มหัวก้าวหน้าไม่กี่กลุ่มเท่านั้น การกระทำอันรีบร้อนเกินไปทำให้ทุกวันนี้มันต้องเจอกับอะไรต่าง ๆ มากมายอย่างที่เราเห็นกันอยู่ แม้คำว่าประชาธิปไตยถูกนำมาใช้ในการปกครองประเทศไทยหลายปีดีดัก คนอีกหลายคนนักยังไม่รู้จักมันซะด้วยซ้ำ รู้แค่เพียงประชาธิปไดยคือการเลือกตั้ง การยอมรับเสียงข้างมาก ซึ่งก็แต่นั้นจริง ๆ ถ้าวันนั้นกลุ่มก่อการออกเผยแพร่ลัทธิประชาธิปไดยแก่ประชาชนควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงการปกครองอะไร ๆ น่าจะดูดีกว่านี้…
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที