Archive.MrChoke.Org
Posts
About
New Home
Light
Dark
Auto
mac
วิธีดูจำนวน Shutter ของกล้อง Nikon
ทุกครั้งที่ซื้อกล้องไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือกล้องมือสองมักจะถามกันว่าจำนวนครั้งของการกด Shutter เท่าไหร่แล้ว ผมเองก็ตรวจดูเหมือนกัน ไม่ว่าตอนซื้อมา หรือ ตอนจะขายไป หลายคนสงสัยว่าทำไมเราจำเป็นต้องรู้ด้วย เหตุผลหลัก ๆ คือ กล้องแต่ละตัวจะมีอายุการใช้งานม่าน Shutter ไม่เท่ากัน เช่น D90 ประมาณ 100,000 D300 และ D700 ประมาณ 150,000 และ D3 ประมาณ 300,000 แต่ก็ไม่ได้ตรง ๆ นะบ้างก็ตายก่อน บ้างก็ตายหลังไม่แน่นอนแต่อยู่ราว ๆ นั้น ถ้าเราซื้อมือหนึ่งมา จุดประสงค์การดูคือ เราโดนย้อมแมวหรือไม่ ถ้ากล้องใหม่ ๆ มันไม่ควรโดนกดมาเยอะ บางทีกล้องที่เราซื้อาจจะเป็นตัวที่ให้ลูกค้าทดลองก็เป็นได้ใครมาก็กดทดลองดู เป็นต้น โดยส่วนใหญ่กล้องเมื่อผ่าน QC มาแล้วมันควรจะเป็น 0 ถ้ามีมากกว่าศูนย์ แสดงว่ามีการแกะกล่องทดลองถ่ายมาก่อนหน้านี้แล้ว อันนี้ล่าสุดผมถอยมาภาพแรกของผมมีค่าเท่ากับ 1 เลย ส่วนกรณีการซื้อมือสอง เราจำเป็นต้องรู้เพราะจะได้คำนวณดูว่าคุ้มกับราคาหรือไม่บางทีกล้องอาจจะซื้อมาไม่นาน แต่เล่นกดมาซะครึ่งแสนมาขายเราตีราคาตามอายุกล้องก็ไม่ได้เหมือนกัน ก็ต้องดูทั้งอายุกล้อง และ จำนวนการกด Shutter ด้วยหรือ ก่อนเราจะขายเราก็ต้องเตรียมข้อมูลไว้ตอบคนซื้อ ไว้ตีราคา เป็นต้น สำหรับกล้อง Nikon แล้วมันมีข้อมูลแปะอยู่ใน Exif ด้วยกล้องอื่น ๆ อาจจะมีเหมือนกันแต่ผมไม่ขอกล่าวเพราะไม่มีข้อมูลอยู่ในมือนะครับวิธีดูบน Mac และ Linux จะง่ายมาก ๆ บน Windows ผมไม่กล่าวถึงละกันเพราะต้องหาโปรแกรมมาเพิ่มวุ่นวาย ข้อมูลบน Net มีเยอะแล้ว ผมแนะนำบน Mac กับ Linux นะครับ
Mon 28 Dec 2009
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที
904
,
android
,
Linux
,
mac
,
socail network
,
Ubuntu
,
Xfce
สิ่งที่หายไปจาก Leopard
มือใหม่ในโลกของ Mac อย่างผมก็ยังต้องปรับตัวหลายอย่าง ทำให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น เช่นใช้ GNOME นะมันรวมมิตรมีเกือบทุกอย่างที่มีใน Windows และ Mac และก็มีการเสริมเข้ามาอีก ถ้าเล่น Windows หรือ Mac อย่างใดอย่างหนึ่งก็จะขาด ๆ หาย เนี๊ยะแหละใครเล่น GNOME มาก่อนก็จะรู้สึกขัด ๆ ช่วงนี้ที่แลปเล่น Mac กันเยอะก็สนุกกันใหญ่ มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ขัดใจหลาย ๆ คนคือการสลับภาษาเรื่องปุ่มสลับไม่ใช่ปัญหาใช้ปุ่มอะไรก็ได้ แต่ที่น่ารำคาญมากคือการไม่จำภาษาของแต่ละหน้าต่างที่เปิดไว้ต้องสลับไปสลับมาน่าปวดหัว จากการสืบสาวราวเรื่องพบว่าเมื่อก่อนมันมีอยู่ใน Tiger แต่พอมาถึง Leopard กลับหายไปซะงั้น ยังไม่ได้ตามหาเหตุผล หรือนักพัฒนาไม่ได้ใช้ภาษาที่สองหว่า ฮ่า ๆ วันนี้เลยลองหา ๆ ดูก็พบเว็บหนึ่งให้วิธีแก้มาเอามาลงดูก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจแต่ก็มีข้อจำกัดเฉพาะโปรแกรมที่เขียนจาก Coco เท่านั้นแต่ก็หรูละ เพราะหลายโปรแกรมที่เป็น Open Source บน Mac ที่ทำงานบน X11 ก็มีปัญหาเรื่อง Input อยู่แล้ว เช่น AMSN ,The GIMP เป็นต้น โดยเฉพาะได้ AMSN เนี๊ยะความสามารถสูงมากแต่สลับภาษาไม่ได้ต้องสับข้างนอกเข้าไปก่อน ก็ลำบากมาก เอา Link ไปทำกันดูสำหรับใครที่ใช้งาน Leopard อยู่ http://limechat.net/inputswitcher/
Mon 1 Jan 0001
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที
904
,
atom
,
compiz
,
Domain
,
leopard
,
Linux
,
mac
,
OpenSource
,
X11