วัดใจ
วันหยุดพักผ่อนเช่นเคย หลังจากเมื่อวานกินข้าวน้อยไปหน่อยเลยปั่นตอนเย็นไม่ไหว วันนี้เลยจัดหนัก แต่กินมื้อแรกก็บ่ายสองละ ข้าวหมูตุ๋น ไก่ทอด ไก่จ้อ และ ปิดท้ายด้วยชาเย็น อยากกินมาหลายวันละไอ้ชาเย็น มันอยากของมันเองนะ พักสาม ชม. ให้ข้าวย่อย วันนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 70 km แบบรวดเดียวไม่หยุดพัก ถ้าพักก็เลิกเลย ต้องวัดใจกันหน่อย ฮา ๆ
ปกติมีคนชอบถามเสมอว่าปั่นคนเดียว วนรอบ ๆ สวทช. มันไม่เบื่อหรือยังไงกัน ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าเบื่อหรือไม่เบื่อ แต่ทุกครั้งผมก็มีเป้าหมายในการปั่นทุกครั้ง เช่น ปั่น 1 ชม. ปั่น 30 km หรือ 50 km ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็แล้วแต่สภาพร่างกาย แต่ก็พยายามทำให้ได้เสมอ อีกอย่างที่ผมได้รับจากการปั่น วนซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือ สมาธิ และ การคิดทบทวนเรื่องต่าง ๆ หลายครั้งปั่นแล้วหงุดหงิดกับสิ่งแวดล้อม รถที่ขับผิดกฏจราจร ปั่นไปปั่นมาผมก็ลืม ๆ มันไปได้ หรือมองในแง่ดีที่เรายังไม่เป็นอะไร ยังปั่นอยู่ได้
การปั่นคนเดียวเป็นการแข่งขันกับความคิด ความรู้สึกตัวเอง ล้วน ๆ ไม่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง บางครั้งปั่นแล้วรู้สึกหิว พอความรู้สึกหิวปรากฏก็ทำให้แขนขาอ่อนไปหมด เราก็ต้องดึงความรู้สึกมาที่ขาสองข้าง มารู้สึกกับการปั่นทำให้ครบก่อนเรื่องกินค่อยว่ากัน หรือ บางทีก็รีบปั่นเพราะมีคนรอเราอยู่ เป้าหมายก็คือเป้าหมายคนที่รอเราก็ต้องเสร็จให้ได้ตามนัด แต่ถ้าวันไหนปั่นกันหลายคน ผมก็ต้องปั่นให้สนุก ความเร็วไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ไปถึงจุดหมายพร้อมกันเป็นเรื่องสำคัญ
สนุกที่ปั่นไล่คนอื่นเสมอ อิอิ ผมไม่แคร์ว่านำหน้าหรือตามหลัง แต่ผมชอบตามหลังมากกว่า การตามหลังคนอื่นทำให้ผมได้เฝ้าสังเกตทุกคนในทีม เค้าปั่นยังไง ลีลา แขนขา อารมณ์ มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ดังนั้นการปั่นเป็นทีมสำหรับผมแล้วมันไม่ใช่การแข่งขันแต่เป็นการช่วยเหลือดูแลกันมากกว่า ถ้าทุกคนปลอดภัยไปถึงพร้อมกันความสนุกก็ตามมาเองนะ
สรุปวันนี้ขาผมปั่นไป 70 km ได้สมดังที่ใจสั่งไว้ ทำให้รู้ว่าแรงที่มีจริง ๆ ประมาณ 40 km แบบปั่นรวดเดียวจบไม่หยุด และวันนี้กินน้ำหมดหนึ่งกระป๋อง ปกติปั่นภายในผมไม่ค่อยกินน้ำ วันนี้ปั่นไปพอคอแห้งก็จิบน้ำไปรู้สึกช่วยได้เยอะ มีแรงฮึดรักษาความเร็วไว้ได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ลดลงตามระยะเวลาก็ถือว่าพอใจนะสำหรับคนขาอ่อนอย่างผม อาหารที่กินไปวันนี้ใช้หมดอย่างคุ้มค่าจริง ๆ