บางเรื่องแม้รู้ก็ทำอะไรไม่ได้…
ไม่ได้บันทึกหลายวัน มีเรื่องเยอะแยะมากมายอยากเขียนแต่อารมณ์ไม่ได้เหอ ๆ ช่วงหลายวันที่ผ่านมาก็มีอะไร ๆ มากมายตั้งแต่เข้าร่วมอบรมเรื่อง Agile ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ถ้านำมาใช้ในทีมได้สิ่งที่ได้เรื่องแรกสำหรับผมคือตัวเอง มันสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างดี เมื่อแต่ละคนเกิดการพัฒนา ทีมก็พัฒนาตาม และ Product ที่ดีก็ตามมา องค์กรก็ได้สิ่งดี ๆ ตามมาเช่นกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับใจผู้บริหารเช่นกันว่าต้องการ Product ที่ดีจริง ๆ หรือต้องการนักปลูกผัก อันนี้ก็ไม่รู้สินะ…
เมื่อวานก็ไปช่วยเก็บภาพงานค่าย EYH2014 ที่บ้านวิทย์มาเป็นปีที่สองที่เข้าไปมีส่วนร่วม เป็นค่ายวันเดียวสำหรับนักเรียนหญิงเท่านั้น เพราะโดยสถิติแล้วนักวิทยาศาสตร์หญิงมีน้อย เค้าว่างั้นนะ งานนี้บริษัท Seagate เป็นเจ้าของทุนร่วมกันกับ Nectec มานานถึง 6 ปีแล้ว ถ้าจัดสักสองวันผมว่ากำลังดี เพราะน้อง ๆ บางคนยังไม่ทันปรับตัวก็จบกิจกรรมเสียแล้ว เพราะกิจกรรมหลาย ๆ อย่างมีประโยชน์ ทุกคนไม่ได้เวียนเข้าฐานกันทุกคน
ส่วนวันนี้ตอนแรกตั้งใจว่าจะปั่นตั้งแต่เช้าสักหน่อยแต่ตื่นไม่ไหว เพราะเมื่อคืนโดนรมควันซะปวดหัวมาก กินยาเข้าไปนอนยาวเลย ตอนกลางวันออกไปหาอะไรกินเจอแดดเข้าไปร้อนมาก ๆ เลยวางแผนออกปั่นตอนเย็นดีกว่า ก็ออกประมาณห้าโมงครึ่ง ปั่นไปวัดไผ่ล้อมคนเดียวเป็นครั้งที่สอง ครั้งก่อนออกตอนหกโมงเย็นไปถึงวันก็มืดแล้วตอนกลับเลยปั่นไปลุ้นไปเพราะทางมืด แต่โชคดีที่รถค่อนข้างน้อยเลยปั่นสบายหน่อย ส่วนวันนี้ตอนออกตัวมือถือจับ GPS ไม่ค่อยได้ปั่นไปยกรถข้ามทางรถไฟแล้วระยะทางยังรวน ๆ เลยยกเลิกแล้วรอจนมือถือจับ GPS ได้เลยค่อยเริ่มนับใหม่ ปั่นไปถึงวัดยังไม่มืดกำลังดี ก็ไปอุดหนุนซื้อน้ำจากแม่ค้าเด็กน้อย ที่ขายประจำอยู่ตรงท่าน้ำเจ้าพระยา พ่อแม่สอนมาอย่างดี ปากหวานตามแบบฉบับแม่ค้ามาก จ้า ทุกคำ สักเกตเห็นน้องก็ชอบปั่นจักรยานเหมือนกัน มีจักรยานคันน้อยปั่นไปปั่นมาอยู่แถวนั้น ก็เป็นการออกกำลังกายสำหรับเด็กที่ดีอีกอย่างโตขึ้นจะได้ปั่นเป็นนิสัยอิอิ
ระหว่างปั่นขาไปมีหมาออกมาทักทายตั้งสามตัวปกติไม่ค่อยออกมาเห่าถ้าไปกันหลายคนเพราะเห่าคนแรกแล้วก็เลิกไม่มาเห่าผม อิอิ การปั่นออกไปถนนสายนี้มีข้อดีคือถนนค่อนข้างตรงหลายกิโลสามารถ Sprint ได้โดยไม่ต้องมาชะลอเพราะเลี้ยวโค้งบ่อย ๆ ทำให้ได้ความเร็วที่ไม่เคยทำได้ เช่นได้อยู่ที่ 29 – 30 km/h ก็เป็นเรื่องแปลกละสำหรับผมที่ปั่นอยู่ประมาณ 25 – 26 km/h ก็ขึ้นอยู่กับแรงอย่างเดียวละว่าจะไหวหรือเปล่า ก็ต้องพัฒนากันต่อไป เท่าที่ทดลองถ้าปั่นต่อเนื่องกันทุกวันจะไม่สามารถปั่นได้เร็วที่สุด แต่ถ้าได้พักบ้างเช่นช่วงนี้ปั่นวันเว้นวันผมสามารถ Sprint ขึ้นไปในระดับที่ตัวเองไม่เคยทำได้
อะ..มะเข้าเรื่องที่พาดหัวกันสักหน่อยร่ายซะยาวเลย เรื่องมันมีอยู่ว่าช่วงสองสามวันมานี้มีควันไฟปกคลุมไปทั่ว มธ. และ สวทช. มันมีผลกระทบต่อผู้อาศัยอยู่ตามหอพักเพราะควันไฟมันร้ายกาจมากสามารถเล็ดลอดเข้ามาในห้องได้ทำให้เกิดอาการปวดหัว มึนไปเลย ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่ามันมากจากไหน วันนี้ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ผมปั่นเข้า มธ.อีกทางหนึ่งซึ่งปกติจะไม่ไปทางนั้น เป็นถนนเลียบทางรถไฟหลัง มธ. ก็พบว่ามีไฟไหม้อยู่ในทุ่งนาเป็นบริเวณกว้าง ควันเยอะมาก ๆ ลอยเต็มไปทั่ว ซึ่งก็ไม่มีใครมาสนใจดับไฟ ก็เลยคิดว่าคงเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลที่เผาเองไม่ใช่ไฟไหม้ธรรมดา ตอนแรกก็แจ้งในกลุ่มของที่ทำงานเผื่อมีใครหาสาเหตุและพอจะบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้บ้างแต่ก็เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ เพราะเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและชุมชน แต่วันนี้เมื่อผมรู้แล้วว่าสาเหตุมันคืออะไรแต่กลับทำอะไรไม่ได้เช่นกัน ได้แต่จำใจอยู่กับมันจนกว่าไฟจะไหม้หมด และ ไม่รู้ว่าจะเผากันกี่วัน….. นี่แหละรู้แต่ทำอะไรไม่ได้เฮ้อ…..