Unbalance of life
นานถึงครึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้เข้ามาเขียน blog เวลามันรวดเร็วเสียจริง ๆ จากวันสู่วัน จากคืนสู่คืน ความทุกข์ ความสุข แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนแล้วจากไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฝากไว้แต่รอยจารึกแห่งความทรงจำ จำสั้น จำนาน จำจนตาย! มันล้วนขึ้นกับตัวเราทั้งสิ้น เฝ้าคิดวนเวียน ทบทวน ย้ำคิด ย้ำทำ เจ็บแล้ว เจ็บอีก มันไม่มีเขตสิ้นสุด ในเมื่อเรายังปล่อยให้ตัวเราเดินตามกฏแห่งธรรมชาติ กฏแห่งความคิดของคน กิเลส รัก โลภ โกรธ และ หลง มันมอมเมาให้ล่มหลง คนที่จิตใจอ่อน ประมาท ย่อมตกเป็นทาส เราเคยได้รับการสอนมาหลายต่อหลายรูปแบบ มีสิ่งหนึ่งที่ได้รับบ่อย ๆ คือ “ให้ทำในสิ่งที่คิดว่าดีและถูกต้อง” และย้ำนักย้ำหนาว่า “จะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน” เราคิดว่าสิ่งที่เราทำสิ่งที่เราทุ่มเทมันมีคุณค่า มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มันไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่อยู่มาวันหนึ่งมีคนบอกว่าทำใมต้องทำแบบนี้ทำใมเป็นแบบนี้ เป็นแบบนี้ไม่ได้นะ มันไม่ถูกต้อง มันกำลังทำให้บางคนเจ็บ มันทำร้ายใครบางคนอยู่ ความสับสน ความกังวนแวะเวียนเข้ามา เข้าสู่วัฎจักรแห่งความทุกข์ คิดทบทวนย้อนไป พบว่าเราทุ่มเทเวลากว่าค่อนแห่งความเป็นส่วนตัวให้กับสิ่งซึ่งเป็นแนวคิดอันสุดยอดของตัวเอง สิ่งซึ่งเป็นอุดมการณ์ แต่ลืมคิดไปว่ามีใครคนหนึ่งเฝ้าดูเรา เฝ้ารอเราอยู่ข้างหลัง มันคุ้มแล้วเหรอกับสิ่งที่เราทุ่มเท แต่เราไม่มีความสุขในวิถีแห่งชีวิต ? เราควรขีดเส้นแบ่งหน้าปัดนาฬิกา สร้างความสุขให้กับตัวเอง และ คนที่กำลังรอเราบ้าง ได้รับรู้วันนี้เองว่าเราขับเคลื่อนความฝัน ความหวัง และชีวิต ด้วยกำลังแห่งใจ ด้วยกำลังแห่งความหวัง ขาดสิ่งเหล่านี้มันเคลื่อนไปข้างหน้าแทบไม่ได้เลย …
วันเวลาที่ห่างหาย วันเวลาแห่งความเจ็บปวด … มันคงดูน้ำเน่ามากไปหน่อยแต่มันคือความจริง ..