ไก่ย่างวิเชียรบุรี
วันนี้เดินทางกลับจากทริปเพชรบูรณ์ ออกเดินทางจากที่พักประมาณสิบโมงเช้าแวะดูผักไฮโดร เป็นเรือนปลูกเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก ว่ากันเรื่องการปลูกผักก็มีหลายแนวคิด มีแบบปลูกแบบปุ๋ยถึงยาถึง ปลูกแบบไร้ดิน และ ปลูกแบบอินทรีย์ แต่ละประเภทก็มีหลักความเชื่อต่างกัน โดยส่วนใหญ่หวังผลกำไร ความสวยงามของผักก็อัดยาฆ่าแมลงซะจนเจ้าตัวเองยังไม่กล้ากิน และต่อมาคนเริ่มเห็นถึงอันตรายที่จะเกิดกับตัวเองก็หาทางออกต่าง ๆ นา ๆ และ กาปลูกแบบไร้ดิน และ ปลูกแบบอินทรีย์ ก็มีการพูดถึงกันเยอะขึ้น สำหรับคนปลูกแล้วสองแบบนี้ยังมีข้อถกเถียงกันมากว่าแบบไหนถึงจะปลอดภัยกว่ากัน ถ้าใครมีโอกาสได้ปลูกผักกินเองผมว่าปลูกกินเองก็น่าจะดีกว่า ส่วนการซื้อกินนี่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงสารพัด แต่ถ้ากลัวเกินไปก็คงอดกินกันไป ก็ต้องระวังเป็นพิเศษ
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้ากลับกันแวะทานข้าวกันที่ร้านไก่ย่างวิเชียรบุรี ซึ่งตอนมาก็แวะกินร้านบัวตองคนในพื้นที่บอกว่ายังไม่ใช่ต้นตำรับ ตอนกลับก็เลยแวะอีกร้านชื่อร้าน ไก่ย่างตาแป๊ะ สาขาหนึ่ง เพราะร้านสาขาสองปิด สาขาแรกเป็นร้านตึกแถวไม้เก่า ๆ แต่แสดงถึงความไม่ธรรมดาในอดีตเพราะหลักใหญ่ทีเดียว ปัจจุบันเหมือนจะไม่เน้นขายที่สาขานี้ เพราะดูสภาพแล้วไม่มีการปรับปรุงร้านมากนัก แต่ถ้าดูหีบห่อที่นำกลับไปกินที่บ้านถือว่าไม่ธรรมดามีถุงเป็นของตัวเองด้วย ส่วนการขายจริง ๆ จัง ๆ น่าจะเน้นที่สาขาสองซึ่งอยู่ริมถนน
ส่วนรสชาติถ้าใครชอบไก่ย่างแบบแห้ง ๆ และใส่เครื่องเทศแบบเหนือ ๆ หน่อย ก็น่าจะชอบกันมีน้ำจิ้มมะขามปรายหวานหน่อย ส่วนอาหารอื่นสาขานี้มีไม่เยอะครับ ก็คงเน้นซื้อไก่กลับบ้านและเป็นของฝากมากกว่าใครผ่านไปก็ลองหากินกันดูครับ
<dd class='wp-caption-text gallery-caption' id='gallery-6-929'>
ไก่ย่างตาแป๊ะ
</dd>
<dd class='wp-caption-text gallery-caption' id='gallery-6-930'>
ไก่ย่างตาแป๊ะ
</dd>
ส่วนตอนเย็นแวะกินส้มตำร้านหญ้าคาแถวคลองรพีพัฒน์ โบว์ลิ่งกับปอมสั่งแบบเผ็ด ๆ ไม่เปรี้ยวเหมือนเคยแต่ไม่รู้ว่ารถชาติจะผ่านไหม แต่เห็นสั่งมาเพิ่มอีกจานไม่รู้หิวหรืออร่อย ส่วนหมูกับเนื้อออกแนวแข็ง ๆ มันน้อย ๆ ใครฟันดี ๆ ก็น่าจะชอบใจ และเมนูปิดท้ายก็ไอติมโบราณกันคนละไม้ พี่ปืนบอกว่าข้าวหลามเย็นอร่อยดี ฮา ๆ
กลับถึงหอไม่มืด จะได้พักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไป NSC ที่ขอนแก่นตั้งแต่เช้ามืดตื่นประมาณตีสามกว่า ๆ โอ้วววว สุวรรณภูมิไกลมว๊ากกก